Explorer II

ผู้นำทางทั้งในยามกลางวันและกลางคืน

Explorer ll

ความสามารถในการบอกเวลา 24 ชั่วโมง ช่องบอกวันที่ หน้าปัดเรืองแสง ความน่าเชื่อถือและความเที่ยงตรงในสภาวะสุดหฤโหด

Explorer II เต็มเปี่ยมและหนักแน่นไปด้วยคุณสมบัติสำคัญหลากหลายประการเพื่อร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับผู้กล้าที่เปิดโลกให้กว้างขึ้นผ่านการสำรวจพื้นที่ต่างๆ แม้ในจุดที่ไกลโพ้นที่สุด

Explorer II ขอบหน้าปัด

เข็มแสดงเวลา 24 ชั่วโมงและขอบหน้าปัด
หน้าปัดที่ขาดไม่ได้

สิ่งที่มีเพิ่มเติมขึ้นมาใน Explorer II คือเข็มนาฬิกาตรงกลางขนาดกว้างสีส้มและมีปลายเข็มรูปลูกศร โดยจะเดินรอบหน้าปัดหนึ่งครั้งในทุกๆ 24 ชั่วโมง นับว่าเป็นการบอกเวลาให้แก่ผู้สวมใส่ในอีกรูปแบบหนึ่งโดยการแสดงผลด้วยเครื่องหมายบนขอบตัวเรือนแบบยึดตายตัวจาก Oystersteel

เข็มนาฬิกานี้ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถแยกได้ระหว่างช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับนักผจญภัยที่เดินทางสู่สภาพแวดล้อมที่มีความมืดมิดปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภายในถ้ำลึก หรือพื้นที่ที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยโผล่พ้นขอบฟ้า เช่น แถบขั้วโลกในฤดูร้อน

หน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามานี้ทำให้ Explorer II สามารถระบุเวลาในเขตเวลาที่สองได้

หน้าปัดโครมาไลท์
พลังแห่งแสงสีฟ้า

ด้วยความแตกต่างกันของสีระหว่างหน้าปัดสีดำหรือสีขาว ทำให้ลักษณะหน้าปัดของ Explorer II อันโฉบเฉี่ยวนี้แสดงผลเวลาได้ในทุกสถานการณ์

หน้าปัดโครมาไลท์มอบความสะดวกสบายถึงขีดสุดในการอ่านเวลาไม่ว่าคุณภาพแสงในขณะนั้นจะเป็นแบบใด สารเรืองแสงที่ได้รับการเติมแต่งลงไปบนตัวเลข เครื่องหมายบอกชั่วโมง และเข็มนาฬิกานั้นจะเปล่งแสงสีขาวสว่างในแสงธรรมชาติตอนกลางวัน และเรืองแสงสีฟ้าเข้มเมื่ออยู่ในความมืด

หน้าปัดโครมาไลท์

หน้าปัดโครมาไลท์ที่มีเฉพาะที่ Rolex เท่านั้นและได้รับการเปิดตัวในปี 2008 ได้ผ่านการพัฒนาถึงขีดสุดในปี 2021 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรืองแสงสีฟ้าได้อย่างยาวนานขึ้น สมรรถภาพของสารเรืองแสงนี้เป็นดั่งสิ่งที่ผลักดันมาตรฐานแห่งการผลิตนาฬิกาให้ไกลออกจากขนบเดิมๆ

วัสดุนี้ผลิตขึ้นมาจากการเผาผงอณูละเอียดที่ประกอบไปด้วยเหล็กออกไซด์หลายประเภทที่ความร้อนสูงและนำมาผสมเข้ากับเรซิ่นเหลว จึงได้ออกมาเป็นผลลัพธ์แห่งกระบวนการผลิตอันซับซ้อน เข็มนาฬิกา ตัวเลข และเครื่องหมายบอกชั่วโมงจะได้รับการเคลือบหรือเติมสารนี้ด้วยมือ การปฏิบัติขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้ความเที่ยงตรงขั้นสูงเพื่อบรรจุปริมาณของสารดังกล่าวให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดเพื่อให้ตรงกับมาตรฐานความยอดเยี่ยมของ Rolex

เลนส์ Cyclops
ส่วนแสดงวันที่ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ

Explorer II มีการแสดงผลวันที่ผ่านช่องที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา มีไว้เพื่อมอบข้อมูลอันจำเป็นยิ่งต่อสถานการณ์การสำรวจในแหล่งต่างๆ ที่มิอาจบอกวันและคืนที่ผ่านไปได้ชัดเจน

โดยเลนส์ Cyclops ออกแบบขึ้นเพื่อปรับปรุงความสามารถในการแสดงผลวันที่ ด้วยคุณลักษณะประเภทเดียวกับแว่นขยาย เลนส์ Cyclops จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เพียบพร้อมทั้งความงามและคุณภาพทางเทคนิค Rolex จดสิทธิบัตรนวัตกรรมที่มีชื่อเหมือนยักษ์ตาเดียวในปกรณัมกรีกนี้ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 ก่อนจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1953

เลนส์ Cyclops ใช้งานได้ดีเยี่ยมจากการเคลือบป้องกันการสะท้อนสองชั้น เช่นเดียวกับคริสตัลที่ประดับนาฬิกาที่ทำมาจากแซฟไฟร์ และเป็นวัสดุที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างแท้จริง

ตัวเรือน Oyster
ผู้ปกปักษ์คุณสมบัติแห่งการกันน้ำ

Explorer II มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 42 มม. และได้รับการติดตั้งมากับตัวเรือน Oyster Rolex เปิดตัวและจดสิทธิบัตรตัวเรือน Oyster ในปี 1926 ซึ่งเป็นก้าวย่างแห่งความสำเร็จอันสำคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาในยุคสมัยใหม่ ตัวเรือนนี้ได้กลายเป็นตัวเรือนกันน้ำของนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก อันประกอบไปด้วยขอบหน้าปัดยึดด้วยสกรู ตัวเรือนด้านหลัง และเม็ดมะยมไขลานที่ยึดเข้ากับตัวเรือนตรงกลาง

Explorer มาพร้อมกับตัวเรือนตรงกลางจาก Oystersteel ที่ประดิษฐ์ขึ้นในห้องปฏิบัติการของ Rolex จึงมีคุณสมบัติการกันน้ำที่ระดับความลึก 100 เมตร (330 ฟุต) อ้างอิงจากการทดสอบอย่างเข้มงวดอันเป็นส่วนหนึ่งของการรับรอง Superlative Chronometer

ตัวเรือน Oyster เป็นสัญลักษณ์แห่งความทนทานและการกันน้ำ และยังมีความโดดเด่นจากความหรูหราของสัดส่วนตัวเรือน พร้อมมอบความสมดุลดั่งอุดมคติระหว่างความงดงามและฟังก์ชันการใช้งานจริง

ตัวเรือน Oyster
Explorer II

Oystersteel
อัลลอยพิเศษเฉพาะ

นาฬิกา Explorer II มีในรุ่นที่รังสรรค์จาก Oystersteel ซึ่งเป็นอัลลอยพิเศษเฉพาะที่อยู่ในตระกูลเดียวกับสตีล 904L และเป็นอัลลอยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมยานอวกาศ และอุตสาหกรรมเคมี

ในปี 1985 Rolex ได้เป็นแบรนด์นาฬิกาแรกที่ใช้สตีล 904L แบบก้อนเพื่อผลิตตัวเรือน

Oystersteel มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนอย่างยิ่งยวด และยังมอบความสว่างเปล่งประกายอย่างมีเอกลักษณ์ ที่จะยังคงความสวยงามแม้นาฬิกาจะถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง

ภาพ Explorer II

สายนาฬิกา Oyster และชุดตัวล็อก Oysterlock
ปลอดภัย สะดวกสบาย และทนทาน

สายนาฬิกา Oyster ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในช่วงท้ายปี 1930 โดยเป็นสายนาฬิกาโลหะรุ่นดั้งเดิมในคอลเลกชัน Oyster Perpetual ข้อสายนาฬิกาแบบข้อต่อสามที่เรียงกันนั้น มอบความสบายยามสวมใส่ ความสง่างาม รวมไปถึงความทนทาน

นาฬิกา Explorer II ติดตั้งชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock แบบพับได้เพื่อป้องกันการเปิดออกโดยไม่ตั้งใจ

และสายนาฬิกา Oyster นี้ก็ได้ติดตั้งระบบขยายสายเร็ว Easylink เข้ากับชุดตัวล็อก ระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับขนาดสายโลหะได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับได้ถึงประมาณ 5 มม. เพียงการเปิดข้อสายนาฬิกาและพับปิดเข้าไปใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้ในทันที

สายนาฬิกา Oyster

คาลิเบอร์ 3285
สมรรถนะ ณ ใจกลางแห่งกลไก

คาลิเบอร์ 3285
นาฬิการุ่น Explorer II มาพร้อมคาลิเบอร์ 3285 อันเป็นกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่มาพร้อมโรเตอร์ Perpetual ที่ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นโดย Rolex แต่เพียงผู้เดียว
กลไกดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ส่งผลให้กลไกการทำงานนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรจำนวนหลายฉบับ ทั้งยังมีสมรรถนะที่โดดเด่นด้านความเที่ยงตรง การเดินโดยไม่ต้องไขลาน การทนทานต่อแรงกระแทก ความสะดวกสบาย และความน่าเชื่อถือ
ชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy
กลไกการทำงานนี้ประกอบด้วยชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ที่ผ่านการจดสิทธิบัตร โดยเป็นการรวมเอาประสิทธิภาพด้านพลังงานขั้นสูงเข้ากับความน่าเชื่อถือ โดยทำจากนิกเกิล-ฟอสฟอรัส ส่งผลให้มีความต้านทานต่อสนามแม่เหล็กความแรงสูงได้อย่างดี
แฮร์สปริง Parachrom
คาลิเบอร์ 3285 ประกอบด้วยแฮร์สปริง Parachrom สีฟ้าจากอัลลอยต้านสนามแม่เหล็ก ที่ผลิตโดย Rolex นอกเหนือจากทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กแรงสูงแล้ว แฮร์สปริงชิ้นนี้ยังมีความเสถียรสูงเมื่อต้องเผชิญกับสภาวะอุณหภูมิผันผวน
โรเตอร์ Perpetual
ออสซิลเลเตอร์ติดตั้งด้วยตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex ประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบและได้รับการจดสิทธิบัตรโดย Rolex ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกของกลไกการทำงาน ด้วยสถาปัตยกรรมกระปุกลานและประสิทธิภาพชั้นเยี่ยมของชุดกลไกปล่อยจักร ทำให้ความสามารถด้านพลังงานสำรองของคาลิเบอร์ 3285 เพิ่มขึ้นถึง 70 ชั่วโมงโดยประมาณ